January 13, 2025

หุ้น Jeju Air ร่วง 12% หลังเหตุโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกในเกาหลีใต้

หุ้นของ Jeju Air ปรับตัวลดลงอย่างหนักหลังเกิดเหตุเครื่องบินของสายการบินไถลออกนอกรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติมูอัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างแรงกระเพื่อมต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและกระตุ้นให้เกิดคำถามเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของสายการบิน รายละเอียดเหตุการณ์ อุบัติเหตุเกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 28 ธันวาคม 2567 เมื่อเครื่องบินของ Jeju Air พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 181 คน ไถลออกนอกรันเวย์ระหว่างพยายามลงจอดที่สนามบินนานาชาติมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ มีผู้รอดชีวิตเพียง 2 คนสันนิษฐานว่าสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากปัญหาทางเทคนิคหรือสภาพอากาศที่เลวร้าย ผลกระทบต่อตลาดหุ้น หลังเหตุการณ์ หุ้นของ Jeju Air ปรับตัวลดลงกว่า 12% ซึ่งเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดในรอบปี นักลงทุนแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวต่อภาพลักษณ์และการดำเนินงานของสายการบิน โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างอุตสาหกรรมสายการบินราคาประหยัด ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน มาตรฐานความปลอดภัย: เหตุการณ์ดังกล่าวอาจกระตุ้นให้เกิดการตรวจสอบและปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยของ Jeju Air รวมถึงสายการบินราคาประหยัดอื่น ๆ ผลกระทบต่อรายได้: ความไม่เชื่อมั่นของผู้โดยสารอาจส่งผลให้รายได้ลดลงในระยะสั้น ปัจจัยภายนอก: ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจในเกาหลีใต้เพิ่มแรงกดดันต่อการลงทุนในตลาดหุ้น มุมมองในระยะยาว แม้เหตุการณ์นี้จะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อ Jeju Air แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการจัดการวิกฤตอย่างมีประสิทธิภาพและการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยจะช่วยให้สายการบินสามารถฟื้นตัวได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตาความเคลื่อนไหวของบริษัทและการตอบสนองของภาครัฐเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านการบิน

โศกนาฏกรรม Jeju Air เครื่องบินไถลนอกรันเวย์ มีผู้รอดชีวิตเพียง 2 คน

เครื่องบินของสายการบิน Jeju Air พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 181 คน ประสบอุบัติเหตุไถลออกนอกรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติมูอัน เกาหลีใต้ รายงานล่าสุดระบุว่ามีผู้รอดชีวิตเพียง 2 คน ส่วนที่เหลือคาดว่าเสียชีวิตทั้งหมด เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร เครื่องบิน Jeju Air ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังสนามบินมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 29 ธันวาคม 2567 ขณะเครื่องบินพยายามลงจอดในสภาพอากาศที่ย่ำแย่และมีลมแรง เครื่องบินสูญเสียการควบคุม ไถลออกนอกรันเวย์ และชนเข้ากับกำแพงสนามบินจนเกิดไฟไหม้ รายละเอียดเบื้องต้น จำนวนผู้รอดชีวิต: 2 คน ซึ่งเป็นลูกเรือ ทั้งสองกำลังได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้เสียชีวิต: สันนิษฐานว่าเป็นผู้โดยสารและลูกเรือส่วนใหญ่ สาเหตุเบื้องต้น: มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากระบบลงจอดขัดข้องหรือการชนกับนก เจ้าหน้าที่สนามบินและทีมกู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตและเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยขณะนี้กำลังประสานงานกับสายการบิน Jeju Air เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้รอดชีวิต เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในอุบัติเหตุการบินที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ Jeju Air ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัดที่ได้รับความนิยม อาจต้องเผชิญกับการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยครั้งใหญ่ เหตุการณ์ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้โดยสารและกระตุ้นให้มีการพิจารณากฎระเบียบด้านการบินเพิ่มเติม สิ่งที่ต้องติดตาม ผลการสอบสวน: สาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัย การจัดการเยียวยา: การช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและการชดเชยของสายการบิน ผลกระทบต่อภาพลักษณ์: […]

ไต้หวันสั่งระงับดีล Uber ซื้อกิจการ Foodpanda มูลค่า 950 ล้านดอลลาร์

ไต้หวันตัดสินใจระงับการเข้าซื้อกิจการ Foodpanda ของ Uber มูลค่า 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของ Bloomberg โดย Uberเหตุผล Uberหลัก Uberมาจากความกังวล Uberเกี่ยว Uberกับผลกระทบ Uberต่อการแข่งขัน Uberในตลาดบริการ Uberจัดส่งอาหาร เหตุผลของการระงับดีล รัฐบาลไต้หวัน Uberให้ Uberความสำคัญ Uberกับการรักษาสมดุล Uberในตลาด Uberบริการ Uberจัดส่งอาหาร เนื่องจาก Uberการรวมตัว Uberของสองบริษัทใหญ่ อาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการรายย่อย ผลกระทบต่อการแข่งขัน: หากดีลนี้ผ่านการอนุมัติ Uber และ Foodpanda จะครองส่วนแบ่งตลาดขนาดใหญ่ ทำให้เกิดความไม่สมดุลในตลาดบริการจัดส่งอาหาร ความกังวลเรื่องผู้บริโภค: การลดการแข่งขันในตลาดอาจทำให้ค่าบริการเพิ่มขึ้นและลดคุณภาพของการบริการ ความเสี่ยงต่อผู้ประกอบการรายย่อย: ธุรกิจจัดส่งอาหารรายเล็กอาจไม่สามารถแข่งขันได้ในสภาวะที่ตลาดถูกควบคุมโดยบริษัทใหญ่ ผลกระทบต่อตลาดบริการจัดส่งอาหาร การระงับดีลครั้งนี้ส่งผลให้ Uber ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ในการขยายตลาดในเอเชีย โดยเฉพาะในไต้หวันที่มีการแข่งขันที่เข้มข้น นอกจากนี้ ยังเป็นสัญญาณให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่พิจารณาความเสี่ยงด้านกฎระเบียบก่อนดำเนินการควบรวมกิจการ “แม้ดีลระหว่าง Uber และ Foodpanda จะถูกระงับ แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าตลาดบริการจัดส่งอาหารยังคงเติบโตในไต้หวันและเอเชียแปซิฟิก […]

บลจ.กสิกรไทย เผยยอดเงินไหลเข้ากองทุนรวม 1 แสนล้านบาท ทุบสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

บลจ.กสิกรไทย ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญด้วยยอดเงินไหลเข้ากองทุนรวมทะลุ 100,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดตั้งแต่บริษัทเริ่มดำเนินกิจการ ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและความแข็งแกร่งของกลยุทธ์การบริหารจัดการสินทรัพย์ของบริษัท ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความสำเร็จ ความหลากหลายของกองทุน: บลจ.กสิกรไทยมีผลิตภัณฑ์กองทุนที่หลากหลาย ทั้งกองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที่ตอบโจทย์นักลงทุนทุกกลุ่ม การจัดการที่มีประสิทธิภาพ: บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการกองทุนอย่างมืออาชีพ พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่สามารถปรับตัวกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ความเชื่อมั่นจากนักลงทุน: นักลงทุนยังคงให้ความไว้วางใจในแบรนด์กสิกรไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดการลงทุนของประเทศไทย การตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาด ในช่วงปี 2024 ที่ผ่านมา ตลาดการลงทุนต้องเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกและความผันผวนทางการเงิน แต่บลจ.กสิกรไทยสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม เช่น การเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มั่นคงและการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี บลจ.กสิกรไทยตั้งเป้าขยายฐานนักลงทุนต่อไป โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความหลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนยุคใหม่ รวมถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการให้บริการ เช่น การเปิดกองทุนผ่านแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มออนไลน์ ประเภทของกองทุนรวมที่นักลงทุนควรรู้ กลยุทธ์การลงทุนในตลาดที่ผันผวน เว็บไซต์ บลจ.กสิกรไทย

โฮมโปร เปิดตัวสาขาใหม่ ‘โฮมโปร รวมโชค’ ตั้งเป้ายอดขาย 55 ล้านบาทต่อเดือน

โฮมโปรตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจบ้านและที่อยู่อาศัยด้วยการเปิดตัว สาขารวมโชค เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสาขาที่ 111 โดยเน้นการนำเสนอสินค้าและบริการครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ พร้อมตั้งเป้ายอดขายสูงถึง 55 ล้านบาทต่อเดือน ทำเลทองในศูนย์กลางเศรษฐกิจเชียงใหม่ รวมโชคตั้งอยู่ในทำเลที่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในด้านการค้าปลีกหรือการท่องเที่ยว การเลือกเปิดสาขาใหม่ที่นี่สะท้อนถึงกลยุทธ์ของโฮมโปรในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าท้องถิ่น รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พื้นที่การให้บริการของสาขารวมโชคครอบคลุมกว่า 6,000 ตารางเมตร รองรับลูกค้าด้วยสินค้าและบริการตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงบริการซ่อมแซมและปรับปรุงบ้าน โดยมีเป้าหมายในการเป็นศูนย์รวมสำหรับความต้องการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับบ้าน สินค้าและบริการครบวงจรที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ โฮมโปร รวมโชค โดดเด่นด้วยการนำเสนอสินค้าที่หลากหลายและคุณภาพสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับบ้านยุคใหม่ เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ทันสมัย และอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน นอกจากนี้ยังมีบริการพิเศษ เช่น Home Service ที่ช่วยให้การซ่อมแซมและติดตั้งเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับลูกค้า โฮมโปรยังใช้กลยุทธ์การจัดโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษในช่วงเปิดสาขาใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้า และสร้างความประทับใจแรกเริ่ม การบริการที่ครบวงจรและทีมงานที่เชี่ยวชาญถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เป้าหมายยอดขายและผลกระทบต่อเศรษฐกิจชุมชน โฮมโปรตั้งเป้ายอดขายสูงถึง 55 ล้านบาทต่อเดือนจากสาขารวมโชค เชียงใหม่ ด้วยความหลากหลายของสินค้าและบริการที่ครบวงจร การขยายธุรกิจในพื้นที่นี้ยังช่วยสร้างงานให้กับคนในชุมชน และกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะในภาคเหนือ ในระยะยาว โฮมโปรมีแผนพัฒนาสาขาเพิ่มเติมในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าในทุกภูมิภาค และสนับสนุนเศรษฐกิจของชุมชนอย่างยั่งยืน แนวโน้มการเติบโตในอนาคต โฮมโปร รวมโชค […]

Nvidia ยังคงเป็นขวัญใจนักลงทุนรายย่อย จากกระแสความนิยม AI

Nvidia ยังคงเป็นที่จับตามองในตลาดหุ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนรายย่อยที่หลั่งไหลเข้ามาลงทุนในบริษัทแห่งนี้ ด้วยกระแสความนิยมของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบทบาทสำคัญของ Nvidia ในฐานะผู้นำด้านชิปประมวลผล AI ส่งผลให้บริษัทนี้กลายเป็น “AI Darling” หรือขวัญใจในวงการเทคโนโลยี การเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ความสำเร็จของ Nvidia ในปี 2024 เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของชิป AI โดยเฉพาะรุ่น H100 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล นักลงทุนต่างมั่นใจในศักยภาพของบริษัทที่จะรักษาความได้เปรียบในตลาดเทคโนโลยีขั้นสูง นอกจากนี้ Nvidia ยังได้ขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การแพทย์ ยานยนต์ และการเงิน ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการดำเนินงาน เหตุผลที่นักลงทุนรายย่อยยังคงแห่เข้ามาลงทุน บทบาทสำคัญในตลาด AI: Nvidia เป็นผู้นำที่ชัดเจนในด้านเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะชิปประมวลผลที่มีบทบาทสำคัญในยุคของปัญญาประดิษฐ์ ความนิยมในกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่: นักลงทุนรุ่นใหม่มักมองหาโอกาสในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่ง Nvidia ตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี ผลตอบแทนที่แข็งแกร่ง: ราคาหุ้น Nvidia มีแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคงและให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ผลกระทบต่อราคาหุ้นและแนวโน้มในอนาคต การหลั่งไหลของเงินทุนจากนักลงทุนรายย่อยทำให้ราคาหุ้นของ Nvidia […]

OpenAI พิจารณาสร้างหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ การเปลี่ยนแปลงใหม่ของเทคโนโลยี AI

OpenAI หนึ่งในผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังพิจารณาก้าวเข้าสู่วงการหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (Humanoid Robot) ตามรายงานล่าสุดที่เผยให้เห็นถึงความตั้งใจในการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจเป็นการพลิกโฉมเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ แผนการพัฒนาที่น่าจับตามอง OpenAI มีชื่อเสียงด้านการพัฒนาระบบ AI เช่น ChatGPT ที่เป็นที่นิยมอย่างมากในหลากหลายอุตสาหกรรม การพิจารณาสร้างหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์สะท้อนถึงความตั้งใจของบริษัทที่จะขยายขอบเขตการใช้งาน AI สู่โลกกายภาพ โดยเป้าหมายคือการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานในชีวิตประจำวันได้ เช่น การดูแลผู้สูงอายุ การช่วยงานในโรงงาน และการให้บริการในสถานที่สาธารณะ ข้อได้เปรียบของ OpenAI ในการพัฒนาหุ่นยนต์ AI ที่ก้าวหน้า: OpenAI มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถปรับใช้กับหุ่นยนต์เพื่อเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัว ความเชี่ยวชาญด้านการประมวลผลภาษา: หุ่นยนต์จาก OpenAI อาจมีศักยภาพในการสื่อสารกับมนุษย์ได้ดีกว่าหุ่นยนต์จากบริษัทอื่น การสนับสนุนจากพันธมิตรและนักลงทุน: ด้วยความนิยมของ OpenAI บริษัทมีทรัพยากรและการสนับสนุนทางการเงินที่มั่นคง ความท้าทายที่อาจเผชิญ ต้นทุนการพัฒนา: การสร้างหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่สามารถใช้งานได้จริงต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล การแข่งขันในตลาด: บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่น ๆ เช่น Tesla และ Boston Dynamics ก็มีโครงการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ก้าวหน้า ความกังวลด้านจริยธรรม: การนำ AI มาสู่โลกกายภาพอาจก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยและการใช้งานที่เหมาะสม […]

เคล็ดลับการใช้ “Social Holiday” เพื่อเพิ่มการมองเห็นธุรกิจบนโซเชียลมีเดีย

Social Holiday

“Social Holiday” หรือวันสำคัญในโลกโซเชียลมีเดียกำลังกลายเป็นโอกาสที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม โดยวันพิเศษเหล่านี้ เช่น National Coffee Day หรือ World Emoji Day สามารถช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและการมองเห็นแบรนด์ในโลกออนไลน์ได้ หากมีการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม วิธีใช้ Social Holiday ให้ได้ผล เลือกวันสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ การเลือกวัน Social Holiday ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟอาจใช้ National Coffee Day ในการโปรโมตสินค้า หรือร้านอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงอาจใช้ National Pet Day สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและตรงประเด็น การโพสต์ภาพ วิดีโอ หรืออินโฟกราฟิกที่เกี่ยวข้องกับวันพิเศษนี้ จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ติดตาม และควรมีข้อความที่สร้างความเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับวันนั้น ๆ ใช้แฮชแท็กเพื่อเพิ่มการมองเห็น การเพิ่มแฮชแท็กเฉพาะของวัน Social Holiday เช่น #NationalCoffeeDay หรือ #WorldEmojiDay จะช่วยให้เนื้อหาของคุณถูกค้นพบง่ายขึ้นในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย จัดโปรโมชันพิเศษ การเสนอส่วนลดหรือกิจกรรมพิเศษในวันสำคัญเหล่านี้เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นยอดขายและสร้างการจดจำแบรนด์ ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ ธุรกิจขนาดเล็กบางแห่งใช้ Social Holiday […]

ตลาดสมาร์ตโฟนจอพับในจีนเริ่มชะลอตัว เช่นเดียวกับความต้องการทั่วโลกที่ลดลง

สมาร์ตโฟนจอพับ

ตลาดสมาร์ตโฟนจอพับในจีน ซึ่งเคยเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมนี้ กำลังเผชิญกับการชะลอตัวของยอดจัดส่งในปี 2024 ท่ามกลางการลดลงของความต้องการในตลาดโลก แม้ว่าผู้ผลิตจีน เช่น Huawei, Oppo และ Xiaomi จะยังคงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีฟีเจอร์ล้ำสมัย ปัจจัยที่ส่งผลต่อการชะลอตัว ตลาดสมาร์ตโฟนจอพับในจีนเริ่มเผชิญกับความอิ่มตัว หลังการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่สนใจผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้ทำการซื้อไปแล้ว ทำให้ความต้องการเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้สมาร์ตโฟนจอพับจะนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ แต่ราคาที่สูงยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคบางกลุ่มมองว่าฟังก์ชันของจอพับไม่ได้เพิ่มมูลค่าการใช้งานที่ชัดเจนพอจะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อ นอกจากนี้ ความต้องการสมาร์ตโฟนจอพับในตลาดโลกก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความไม่แน่นอน ส่งผลให้ผู้บริโภคในหลายประเทศลดการใช้จ่ายในสินค้าเทคโนโลยีที่มีราคาสูง การปรับตัวของผู้ผลิตจีน ผู้ผลิตในจีนยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น การพับหน้าจอที่ทนทานมากขึ้น การเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ และการลดรอยพับบนหน้าจอ นอกจากนี้ยังมีการเร่งทำตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป ตลาดสมาร์ตโฟนจอพับในจีนกำลังเข้าสู่ช่วงปรับตัว แม้ความต้องการในประเทศจะเริ่มชะลอ แต่การขยายตลาดและการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ยังคงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ผลิต การสร้างความแตกต่างในด้านการใช้งานและราคา จะเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดผู้บริโภคในระยะยาว การชะลอตัวของยอดจัดส่งสมาร์ตโฟนจอพับในจีนสะท้อนถึงความท้าทายที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีต้องเผชิญ ผู้ผลิตจะต้องเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทั้งในประเทศและตลาดโลก

อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น Honda และ Nissan เตรียมเปิดการเจรจาควบรวมกิจการ เสริมแกร่งสู้ตลาดโลก

ในวันที่ 22 ธันวาคม 2024 มีรายงานว่า Honda Motor Co. และ Nissan Motor Co. สองบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น เตรียมเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นในรอบหลายทศวรรษ เหตุผลเบื้องหลังการควบรวมที่เป็นไปได้ แรงกดดันจากการแข่งขันระดับโลก อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และยานยนต์อัตโนมัติ Honda และ Nissan จึงต้องการรวมทรัพยากรเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน การประหยัดจากขนาด (Economies of Scale) การควบรวมจะช่วยให้ทั้งสองบริษัทลดต้นทุนในการวิจัย พัฒนา และผลิตยานยนต์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะในเทคโนโลยี EV การแก้ไขปัญหาทางการเงินของ Nissan Nissan เผชิญกับความท้าทายทางการเงินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การรวมกับ Honda อาจช่วยเสริมความมั่นคงทางการเงินและช่วยให้ Nissan ฟื้นตัวได้ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น: การรวมตัวของ Honda และ Nissan อาจช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นในการแข่งขันกับบริษัทระดับโลก เช่น Tesla, Volkswagen และผู้ผลิตจากจีน ตลาดโลก: […]