December 21, 2024

AFA NEWS ข่าวธุรกิจ

บิตคอยน์ร่วงต่อเนื่อง หลุดระดับ 100,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลทางเศรษฐกิจ

ราคาบิตคอยน์ปรับตัวลดลงอีกครั้งในวันที่ 20 ธันวาคม 2024 โดยร่วงหลุดระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับแนวรับสำคัญของนักลงทุน ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณนโยบายการเงินที่เข้มงวดในปีหน้า ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาบิตคอยน์ ความเข้มงวดของนโยบาย Fed Fed ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับสูงไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่ยังไม่ลดลงตามเป้าหมาย การประกาศนี้ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงบิตคอยน์ได้รับแรงกดดัน การเทขายในตลาดคริปโต ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการลงทุนทำให้นักลงทุนเริ่มเทขายสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อถือเงินสดหรือลงทุนในสินทรัพย์ที่มั่นคงกว่า เช่น พันธบัตร แรงกดดันจากกฎระเบียบ หลายประเทศกำลังพิจารณากฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับการซื้อขายคริปโต ซึ่งสร้างความไม่มั่นใจในระยะยาวให้กับนักลงทุน ทิศทางอนาคตของบิตคอยน์ แม้ว่าราคาบิตคอยน์จะปรับลดลงในปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนยังเชื่อว่าในระยะยาวบิตคอยน์มีโอกาสฟื้นตัวจากการที่เทคโนโลยี Blockchain และการยอมรับคริปโตในภาคธุรกิจยังคงขยายตัว ราคาบิตคอยน์ที่หลุดระดับ 100,000 ดอลลาร์เป็นสัญญาณสำคัญที่สะท้อนถึงความเปราะบางในตลาดคริปโต แม้ว่าจะมีความหวังจากกลุ่มผู้เชื่อมั่นในเทคโนโลยีนี้ แต่การเติบโตอาจชะลอตัวลงหากไม่มีมาตรการสนับสนุนจากนโยบายการเงินหรือการยอมรับที่ชัดเจนในตลาดหลัก

บิตคอยน์ร่วง หลัง Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาดในปี 2025

คืนวันที่ 18 ธันวาคม 2024 ราคาบิตคอยน์ปรับตัวลดลงทันทีหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 อาจน้อยกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดคริปโตเคอเรนซีและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ความเชื่อมโยงระหว่างดอกเบี้ยและคริปโตเคอเรนซี >สินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ มักได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของ Fed เพราะดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้ต้นทุนเงินทุนเพิ่มขึ้น นักลงทุนจึงมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า เช่น พันธบัตร ส่งผลให้ความต้องการในตลาดคริปโตลดลง ตลาดตอบสนองทันที หลังการประกาศจาก Fed ราคาบิตคอยน์ลดลงกว่า 3% อยู่ที่ประมาณ 26,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 900,000 บาท) พร้อมกับการปรับตัวลดลงของสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดกำลังปรับตัวกับความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินในอนาคต และอาจต้องรอดูข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงต้นปี 2024 Ref: DLnews

ทักษิณหนุนไทยรับบิตคอยน์ เปลี่ยนเกมการท่องเที่ยวยุคดิจิทัล

ทักษิณ ชินวัตร เผยแนวคิดของรัฐบาลให้กระทรวงการคลังพิจารณาโอกาสในการนำ บิตคอยน์ (Bitcoin) และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ มาใช้แทนเงินสดในเมืองท่องเที่ยวหลัก โดยแนวคิดนี้เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและยกระดับการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับโลกดิจิทัล บิตคอยน์ถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ด้วยระบบที่ปลอดภัย โปร่งใส และไร้พรมแดน ทำให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศสามารถใช้จ่ายในไทยได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงิน นอกจากนี้ยังลดข้อจำกัดในการทำธุรกรรมข้ามประเทศ ประโยชน์ที่ประเทศไทยอาจได้รับจากการใช้บิตคอยน์ในเมืองท่องเที่ยว: เพิ่มความสะดวก – นักท่องเที่ยวสามารถชำระเงินค่าสินค้าและบริการได้ทันทีผ่านระบบดิจิทัล ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ – โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และนักลงทุนที่คุ้นเคยกับสกุลเงินดิจิทัล ลดต้นทุนการแลกเปลี่ยนเงินตรา – ธุรกิจในไทยสามารถรับเงินได้โดยตรง ลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม อย่างไรก็ตาม การนำบิตคอยน์มาใช้งานในระดับประเทศยังต้องพิจารณาหลายประเด็น เช่น ความผันผวนของมูลค่าสกุลเงินดิจิทัล การจัดการกับกฎหมายและความปลอดภัย รวมถึงการเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานในเมืองท่องเที่ยว Ref: ประชาชาติธุรกิจ

Binance เตือนนักลงทุนไทย ระวังมิจฉาชีพแฝงตัวในตลาดคริปโต

Binance แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีระดับโลก ออกคำเตือนให้นักลงทุนในประเทศไทยเพิ่มความระมัดระวังจาก กลโกงในตลาดคริปโต ซึ่งปัจจุบันมีการแอบอ้างชื่อ Binance ไปหลอกลวงนักลงทุนอย่างแพร่หลาย กลโกงที่พบได้บ่อย ได้แก่: เว็บปลอมและแอปพลิเคชันปลอม ที่มีหน้าตาคล้าย Binance หลอกให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลบัญชี สัญญาลวงให้ลงทุน โดยอ้างผลตอบแทนสูงและการันตีความปลอดภัย การหลอกล่อผ่าน Social Media โดยมิจฉาชีพมักสร้างโปรไฟล์ปลอมและหลอกให้โอนเงิน Binance แนะนำให้นักลงทุนตรวจสอบความถูกต้องของเว็บไซต์และช่องทางการติดต่อเสมอ รวมถึงหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน หรือ Private Key แก่บุคคลอื่น นอกจากนี้ นักลงทุนควรทำธุรกรรมผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือเท่านั้น คำเตือนนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการเติบโตของตลาดคริปโตในประเทศไทย ซึ่งทำให้มิจฉาชีพใช้โอกาสนี้สร้างความเสียหายให้กับผู้ลงทุนที่ขาดความรู้และความระมัดระวัง