เกณฑ์ใหม่ “Easy E-Receipt” แบ่ง 2 ตะกร้า ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท

รัฐบาลเปิดตัวโครงการ “Easy E-Receipt” เกณฑ์ใหม่สำหรับการลดหย่อนภาษีในปี 2567 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศและส่งเสริมการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยแบ่งประเภทการใช้จ่ายออกเป็น 2 ตะกร้า พร้อมกำหนดวงเงินลดหย่อนสูงสุดถึง 50,000 บาท รายละเอียดเกณฑ์ Easy E-Receipt ตะกร้าที่ 1: การใช้จ่ายในสินค้าและบริการทั่วไป วงเงินลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท ครอบคลุมการใช้จ่ายที่ชำระเงินผ่านระบบ E-Receipt เช่น การซื้อสินค้าในร้านค้าและบริการทั่วไป ตะกร้าที่ 2: การใช้จ่ายในสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม วงเงินลดหย่อนสูงสุด 20,000 บาท เช่น การซื้อสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือสินค้าที่ผลิตในประเทศ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในเชิงคุณค่า การใช้งาน E-Receipt ผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีผ่านเกณฑ์นี้ จะต้องชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บัตรเครดิตหรือแอปพลิเคชันการเงินที่รองรับ E-Receipt และเก็บหลักฐานใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ไว้สำหรับการยื่นภาษี ผลกระทบที่คาดหวัง กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โครงการนี้ช่วยส่งเสริมให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลดีต่อร้านค้าและผู้ประกอบการในประเทศ สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล การใช้งาน E-Receipt ช่วยลดการใช้กระดาษ และเพิ่มความสะดวกในการบริหารจัดการข้อมูล
Meta เพิ่ม ลิงก์ Affiliate ในฟีด Instagram และ Facebook เสริมรายได้ให้ครีเอเตอร์

Meta ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถแสดง ลิงก์ Affiliate บนฟีด Instagram และ Facebook ได้โดยตรง ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์ รวมถึงสนับสนุนแบรนด์ที่ต้องการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รายละเอียดของฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มลิงก์ Affiliate ในฟีด ครีเอเตอร์สามารถเพิ่มลิงก์ Affiliate ในโพสต์ที่แชร์ในฟีดของ Instagram และ Facebook ได้โดยตรง ผู้ติดตามสามารถคลิกลิงก์เพื่อซื้อสินค้า และครีเอเตอร์จะได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการขาย ความยืดหยุ่นในการโปรโมต ลิงก์ Affiliate ไม่ได้จำกัดเฉพาะในโพสต์แบบธรรมดาเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้งานในรูปแบบวิดีโอหรือรีลได้ เพื่อให้เนื้อหาดูน่าสนใจและเหมาะกับการตลาดที่เน้นการเล่าเรื่อง โอกาสสำหรับแบรนด์ แบรนด์ต่าง ๆ สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ในการทำงานร่วมกับครีเอเตอร์เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายการเข้าถึงตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการเลือกซื้อสินค้า การเพิ่มฟีเจอร์ลิงก์ Affiliate ของ Meta ช่วยสร้างโอกาสใหม่ให้ทั้งครีเอเตอร์และแบรนด์ ด้วยการทำให้โซเชียลมีเดียกลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ครีเอเตอร์จะต้องสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและไม่ดูเหมือนการขายเกินไป เพื่อรักษาความไว้วางใจจากผู้ติดตาม ที่มา Meta
Nvidia เผยยอดขายชิปพุ่ง แม้เผชิญข้อจำกัดการส่งออกสหรัฐ-จีน

Nvidia ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดชิปประมวลผล แม้จะเผชิญความท้าทายจากข้อจำกัดการส่งออกระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยเฉพาะในกลุ่มชิปที่ใช้สำหรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (High-Performance Computing: HPC) ปัจจัยสำคัญที่หนุนการเติบโตของ Nvidia ความต้องการเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ชิปของ Nvidia โดยเฉพาะรุ่น A100 และ H100 ยังคงเป็นที่ต้องการสูงในธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้ง และการพัฒนาระบบ AI เช่น โมเดลภาษา ChatGPT หรือการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ความหลากหลายของตลาด แม้ยอดขายในจีนจะได้รับผลกระทบจากการควบคุมการส่งออกของรัฐบาลสหรัฐฯ Nvidia ได้ขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่น เช่น ยุโรป อินเดีย และตะวันออกกลาง ซึ่งยังมีความต้องการเทคโนโลยีขั้นสูงเพิ่มขึ้น การตอบสนองต่อข้อจำกัดการส่งออก Nvidia ได้พัฒนาชิปรุ่นใหม่ เช่น รุ่น A800 และ H800 ซึ่งเป็นรุ่นที่ปรับแต่งให้สามารถส่งออกไปยังจีนได้โดยไม่ละเมิดข้อจำกัดของสหรัฐฯ ช่วยรักษาฐานลูกค้าในจีนบางส่วนไว้ได้ ผลกระทบของข้อจำกัดการส่งออก แม้ Nvidia จะสามารถรักษาการเติบโตในระดับโลกได้ แต่ข้อจำกัดการส่งออกยังสร้างความท้าทายในหลายด้าน เช่น […]
“ทีทีบี” ประเมินไทยปี 2568 โต 2.6% ช้าสุดในภูมิภาค เหตุบริโภค-ส่งออก-ท่องเที่ยวชะลอตัว

ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวเพียง 2.6% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยมีปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้การเติบโตชะลอตัว ได้แก่ การบริโภคในประเทศลดลง ผู้บริโภคยังเผชิญแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่สูง ขณะที่กำลังซื้อของประชาชนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ การส่งออกที่ซบเซา ภาคการส่งออกยังคงได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจากตลาดใหญ่ เช่น จีนและสหรัฐฯ การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้า แม้ว่าการท่องเที่ยวจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิด ทีทีบียังระบุว่า ไทยต้องเร่งปรับตัวและยกระดับขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมนวัตกรรม และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านที่เติบโตได้รวดเร็วกว่ามาก ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
ทองคำร่วงหนักกว่า 2% ต่ำกว่าระดับ 2,600 ดอลลาร์ หลังเฟดชะลอแผนลดดอกเบี้ย

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2024 ทองคำร่วงหนักกว่า 2% โดยหลุดระดับ 2,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สาเหตุสำคัญมาจากการประกาศของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่ส่งสัญญาณว่าอาจชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เหตุผลที่ราคาทองคำลดลง ทิศทางนโยบายการเงินของเฟด การลดดอกเบี้ยที่ช้ากว่าคาด ชี้ว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งมักถูกใช้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอน ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า หลังประกาศของเฟด ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นทันที ทำให้ราคาทองคำสำหรับนักลงทุนต่างชาติแพงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการทองคำลดลง ผลกระทบต่อการลงทุน ราคาทองคำที่ลดลงครั้งนี้สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้า ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่าราคาทองคำอาจยังผันผวนต่อเนื่องในระยะสั้น
บิตคอยน์ร่วง หลัง Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาดในปี 2025

คืนวันที่ 18 ธันวาคม 2024 ราคาบิตคอยน์ ปรับตัวลดลงทันทีหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 อาจน้อยกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดคริปโตเคอเรนซีและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ความเชื่อมโยงระหว่างดอกเบี้ยและคริปโตเคอเรนซี สินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ มักได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของ Fed เพราะดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้ต้นทุนเงินทุนเพิ่มขึ้น นักลงทุนจึงมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า เช่น พันธบัตร ส่งผลให้ความต้องการในตลาดคริปโตลดลง ตลาดตอบสนองทันที หลังการประกาศจาก Fed ราคาบิตคอยน์ลดลงกว่า 3% อยู่ที่ประมาณ 26,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 900,000 บาท) พร้อมกับการปรับตัวลดลงของสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดกำลังปรับตัวกับความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินในอนาคต และอาจต้องรอดูข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงต้นปี 2024 Ref: DLnews
Temu ครองอันดับ 1 แอปดาวน์โหลดสูงสุดใน Apple Store

Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติจีน สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดอีคอมเมิร์ซ ด้วยการแซงหน้า Amazon และกลายเป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดใน Apple Store นับเป็นความสำเร็จที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค Temu เน้นจุดขายที่ชัดเจน คือ ราคาสินค้าที่ย่อมเยา และ ดีลส่วนลดที่ดึงดูดใจ โดยใช้กลยุทธ์สร้างฐานผู้ใช้ผ่านการตลาดเชิงรุก เช่น การโฆษณาหนักหน่วงในโซเชียลมีเดีย การให้คูปองส่วนลดที่หลากหลาย และการเล่นเกมในแอปเพื่อแลกรับรางวัล กลยุทธ์เหล่านี้ทำให้ Temu เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศ ความสำเร็จของ Temu ไม่ได้เกิดจากราคาที่ถูกเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากระบบ การจัดส่งที่รวดเร็ว และ ประสบการณ์ใช้งานที่ง่าย ทั้งบนแอปและเว็บไซต์ Temu ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการช้อปปิ้งได้สะดวกและรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม Temu ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในด้านความยั่งยืนของโมเดลธุรกิจและการสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มลูกค้า Ref: Inc.
Apple Intelligence ยกระดับ Siri เปลี่ยนโฉมการใช้งาน iPhone ยุคใหม่

Apple เปิดตัวระบบ Apple Intelligence ซึ่งมาพร้อมการอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับ Siri ผู้ช่วยอัจฉริยะบน iPhone โดยมุ่งเน้นการเพิ่มความสามารถในการเข้าใจและตอบสนองคำสั่งที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงหลักของ Siri ภายใต้ Apple Intelligence ได้แก่: การเข้าใจบริบทอย่างแม่นยำขึ้น: Siri สามารถจดจำและเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายแอปเพื่อทำงานได้ต่อเนื่อง เช่น อ่านอีเมลและสรุปการนัดหมายจากปฏิทิน คำสั่งที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม: ผู้ใช้งานไม่ต้องใช้คำสั่งเฉพาะเจาะจง Siri สามารถประมวลผลคำพูดแบบธรรมชาติได้ดีขึ้น การทำงานร่วมกับ AI อื่น ๆ: Apple Intelligence ผสานกับระบบ AI ในตัวเครื่อง ช่วยให้ Siri ตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงนี้ทำให้ Siri กลายเป็นผู้ช่วยที่ เข้าใจเจตนาของผู้ใช้งาน มากขึ้น เช่น สั่งให้ “หาข้อมูลประชุมเมื่อวาน” Siri จะดึงข้อมูลจากแอปที่เกี่ยวข้องมารวมให้ทันที Apple ย้ำว่า Apple Intelligence จะให้ความสำคัญกับ ความเป็นส่วนตัว ของผู้ใช้ โดยการประมวลผลข้อมูลจะทำบนอุปกรณ์เป็นหลัก ลดความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหล […]
Threads ทะลุ 300 ล้านผู้ใช้ ก้าวขึ้นเป็นคู่แข่งตัวจริงของ X (Twitter)

Threads แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจาก Meta ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ ยอดผู้ใช้งานทะลุ 300 ล้านบัญชี หลังเปิดตัวไม่ถึงปี ตอกย้ำตำแหน่งคู่แข่งสำคัญของ X (Twitter) ในยุคที่ผู้คนมองหาแพลตฟอร์มใหม่ ๆ สำหรับการสนทนาแบบเรียลไทม์ ปัจจัยที่ช่วยให้ Threads เติบโตอย่างรวดเร็ว คือการเชื่อมต่อกับ Facebook และ Instagram ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถดึงฐานผู้ติดตามข้ามแพลตฟอร์มได้ทันที ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ ขณะเดียวกัน Meta ยังเร่งพัฒนาฟีเจอร์ที่ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้น เช่น ฟีเจอร์ค้นหาและติดตามเทรนด์ ช่วยให้ผู้ใช้เจอคอนเทนต์ที่สนใจได้ง่าย การปรับปรุงการแสดงผลโพสต์ ให้ตอบโจทย์การสนทนาแบบเรียลไทม์มากขึ้น Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ย้ำว่า Threads มุ่งเน้นบรรยากาศการใช้งานที่ “ง่าย” และ “เป็นมิตร” แตกต่างจากแพลตฟอร์มคู่แข่งบางรายที่ผู้ใช้อาจรู้สึกถึงความตึงเครียดหรือเนื้อหาที่เป็นพิษ vอย่างไรก็ตาม ความท้าทายของ Threads คือการทำให้ผู้ใช้งานกลับมาใช้อย่างต่อเนื่องและรักษาความสดใหม่ของคอนเทนต์ ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญที่แพลตฟอร์มคู่แข่งก็ยังต้องเผชิญ Ref: SocialMediaToday
Binance เตือนนักลงทุนไทย ระวังมิจฉาชีพแฝงตัวในตลาดคริปโต

Binance แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีระดับโลก ออกคำเตือนให้นักลงทุนในประเทศไทยเพิ่มความระมัดระวังจาก กลโกงในตลาดคริปโต ซึ่งปัจจุบันมีการแอบอ้างชื่อ Binance ไปหลอกลวงนักลงทุนอย่างแพร่หลาย กลโกงที่พบได้บ่อย ได้แก่: เว็บปลอมและแอปพลิเคชันปลอม ที่มีหน้าตาคล้าย Binance หลอกให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลบัญชี สัญญาลวงให้ลงทุน โดยอ้างผลตอบแทนสูงและการันตีความปลอดภัย การหลอกล่อผ่าน Social Media โดยมิจฉาชีพมักสร้างโปรไฟล์ปลอมและหลอกให้โอนเงิน Binance แนะนำให้นักลงทุนตรวจสอบความถูกต้องของเว็บไซต์และช่องทางการติดต่อเสมอ รวมถึงหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน หรือ Private Key แก่บุคคลอื่น นอกจากนี้ นักลงทุนควรทำธุรกรรมผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือเท่านั้น คำเตือนนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการเติบโตของตลาดคริปโตในประเทศไทย ซึ่งทำให้มิจฉาชีพใช้โอกาสนี้สร้างความเสียหายให้กับผู้ลงทุนที่ขาดความรู้และความระมัดระวัง