20 มีนาคม 2568 – ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และมีแรงซื้อคืนเงินบาทกลับเข้ามา
จากข้อมูลของ (InfoQuest) ระบุว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.65 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 35.80 บาทต่อดอลลาร์ สะท้อนถึงกระแสเงินทุนไหลเข้าหลังตลาดรับรู้ผลการประชุม FED
: เงินบาท ผันผวน ตลาดจับตาผลประชุมเฟดวันนี้
ปัจจัยที่หนุนให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
-
FED คงดอกเบี้ย และส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในปีนี้ แม้ว่า FED จะยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ยทันที แต่ได้ส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีหากเศรษฐกิจและเงินเฟ้ออยู่ในทิศทางที่เหมาะสม ซึ่งทำให้ตลาดเกิดความคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจลดลง ส่งผลให้เงินทุนบางส่วนไหลกลับเข้ามาในตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทย
-
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังแถลงการณ์ของ FED ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ ค่าเงินบาท และสกุลเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งค่าขึ้น
-
แรงซื้อพันธบัตรและสินทรัพย์ไทยเพิ่มขึ้น นักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มเข้าซื้อพันธบัตรและสินทรัพย์ในไทยมากขึ้น หลัง FED มีท่าทีผ่อนคลายนโยบายการเงิน
แนวโน้มค่าเงินบาทและปัจจัยที่ต้องติดตาม
”นักวิเคราะห์มองว่า เงินบาท อาจยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50-35.80 บาทต่อดอลลาร์ ในระยะสั้น โดยต้องจับตาท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะมีมาตรการใดเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย ”
”ในระยะยาวทิศทาง ค่าเงินบาท จะขึ้นอยู่กับสัญญาณจาก FED ในการประชุมครั้งต่อไป รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการไหลเวียนของเงินทุนโลก”
ดังนั้น ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น หลัง FED คงอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง และกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น ภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินไทยในอนาคต