รัฐบาลเปิดตัวโครงการ “Easy E-Receipt” เกณฑ์ใหม่สำหรับการลดหย่อนภาษีในปี 2567 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศและส่งเสริมการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยแบ่งประเภทการใช้จ่ายออกเป็น 2 ตะกร้า พร้อมกำหนดวงเงินลดหย่อนสูงสุดถึง 50,000 บาท
รายละเอียดเกณฑ์ Easy E-Receipt
- ตะกร้าที่ 1: การใช้จ่ายในสินค้าและบริการทั่วไป
- วงเงินลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท
- ครอบคลุมการใช้จ่ายที่ชำระเงินผ่านระบบ E-Receipt เช่น การซื้อสินค้าในร้านค้าและบริการทั่วไป
- ตะกร้าที่ 2: การใช้จ่ายในสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม
- วงเงินลดหย่อนสูงสุด 20,000 บาท
- เช่น การซื้อสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือสินค้าที่ผลิตในประเทศ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในเชิงคุณค่า
การใช้งาน E-Receipt
ผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีผ่านเกณฑ์นี้ จะต้องชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บัตรเครดิตหรือแอปพลิเคชันการเงินที่รองรับ E-Receipt และเก็บหลักฐานใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ไว้สำหรับการยื่นภาษี
ผลกระทบที่คาดหวัง
- กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
โครงการนี้ช่วยส่งเสริมให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลดีต่อร้านค้าและผู้ประกอบการในประเทศ - สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
การใช้งาน E-Receipt ช่วยลดการใช้กระดาษ และเพิ่มความสะดวกในการบริหารจัดการข้อมูล